“ปูพื้นห้องน้ำ” ด้วยหินแล้วลื่นไหม ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม

ในปัจจุบัน การตกแต่งห้องน้ำด้วยวัสดุประเภทหินโดยเฉพาะ ‘หินเทียม’ หรือ ‘หินสังเคราะห์’ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากให้ความรู้สึกหรูหรา เรียบเนียน และมีผิวสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำในบ้าน โรงแรม หรือคาเฟ่ดีไซน์สวย ต่างก็เลือกใช้หินเทียมเป็นวัสดุปูพื้นเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับพื้นที่

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคำถามที่หลายคนมักสงสัยคือ “ปูพื้นห้องน้ำด้วยหินแล้วจะลื่นไหม?” เพราะพื้นที่ห้องน้ำต้องเจอกับความชื้นและน้ำอยู่ตลอดเวลา หากเลือกหินผิดประเภทหรือพื้นผิวไม่เหมาะสม ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย ดังนั้น การเข้าใจลักษณะของหินแต่ละชนิด รวมถึงการเลือกพื้นผิวที่เหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกวัสดุปูพื้นห้องน้ำ

ปูพื้นห้องน้ำด้วยหินแล้วลื่นจริงไหม?

คำตอบคือสามารถลื่นได้ ถ้าเลือกหินที่ไม่เหมาะสมกับการปูพื้นห้องน้ำ พื้นหินไม่ได้ลื่นโดยธรรมชาติ แต่จะขึ้นอยู่กับพื้นผิว (Texture) และสภาพแวดล้อมของพื้นที่ใช้งาน เช่น ความชื้นหรือคราบสบู่ที่สะสมในห้องน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอันตรายได้หากไม่ระวัง

ปัจจัยที่ทำให้พื้นหินลื่น

1. พื้นผิวมันหรือขัดเงา (Polished Finish): ผิวที่ขัดจนเรียบเงาจะสะท้อนแสงและไม่ดูดซับน้ำ ทำให้เกิดแรงเสียดทานต่ำ เมื่อมีน้ำหรือสบู่ตกค้างจึงลื่นง่าย
2. ความชื้นสะสม: พื้นห้องน้ำที่เปียกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในโซนเปียก เช่น ใกล้ฝักบัว หากไม่มีระบบระบายน้ำที่ดีจะทำให้เกิดตะไคร่หรือฟิล์มสบู่เพิ่มความลื่น
3. เลือกเกรดหินผิดประเภท: บางคนใช้หินตกแต่งภายในทั่วไป (เช่น หินขัดเงา หินผิวมัน หรือหินสำหรับพื้นแห้ง) มาปูพื้นห้องน้ำ ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาให้กันลื่น

การเลือกหินสำหรับปูพื้นห้องน้ำจึงไม่ได้ดูเพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงผิวสัมผัสและคุณสมบัติกันลื่นควบคู่กัน เพื่อความปลอดภัยและใช้งานได้จริงในระยะยาว

ประเภทของหินที่นิยมใช้ปูพื้นห้องน้ำ

การเลือกหินสำหรับปูพื้นห้องน้ำควรคำนึงถึงทั้งความสวยงาม ความปลอดภัย และความทนทานต่อความชื้น โดยหินที่นิยมใช้แต่ละประเภทมีจุดเด่นแตกต่างกันดังนี้

1. Hybrid Stone

Hybrid Stone คือ หินเทียมที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบเฉพาะ ช่วยเพิ่มทั้งความแข็งแรงและความทนทานต่อความชื้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการปูพื้นห้องน้ำ พื้นที่ที่ต้องสัมผัสน้ำอยู่ตลอดเวลา หินชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นคือไม่ลื่นง่าย ดูแลรักษาง่าย และไม่ดูดซึมน้ำ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อราและคราบสะสมได้ดี

อีกจุดเด่นของ Hybrid Stone คือ ความหลากหลายด้านดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายหินธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ หรือโทนเรียบหรูแบบโมเดิร์นที่เข้ากับบ้านสไตล์ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้เจ้าของบ้านสามารถเลือกโทนและพื้นผิวที่เหมาะกับฟังก์ชันของแต่ละโซนในห้องน้ำได้อย่างอิสระ

แนะนำแบรนด์ Hybrid Stone จาก Stone Surfaces Thailand: Ariostea, Sapienstone

2. Terrazzo

Terrazzo หรือที่รู้จักกันในชื่อ หินขัด เป็นวัสดุปูพื้นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยลวดลายจากเม็ดหินขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่เม็ดเล็กละเอียดไปจนถึงเม็ดใหญ่สะดุดตา เกิดจากการผสมเศษหินธรรมชาติ เช่น หินอ่อนหรือหินแกรนิต เข้ากับซีเมนต์หรือเรซิน แล้วขัดผิวให้เรียบเนียนจนได้แผ่นหินที่ทั้ง แข็งแรง ทนทาน และสวยงามเป็นเอกลักษณ์

เมื่อใช้ในการปูพื้นห้องน้ำ ลายหินขัดจะให้ความรู้สึกเรียบหรูแต่ยังคงความธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถเลือกสีและลวดลายได้ตามสไตล์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโทนมินิมอลเรียบง่าย หรือแนวสดใสที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ หินขัดแบบผิวด้านหรือแบบกันลื่นยังช่วยลดความเสี่ยงจากการลื่นล้ม เหมาะสำหรับห้องน้ำที่ต้องการทั้งความปลอดภัยและความสวยงามในเวลาเดียวกัน

แนะนำแบรนด์หินเทอร์ราซโซ่ จาก Stone Surfaces Thailand: Agglotech

3. Engineered Quartz

Engineered Quartz หรือ หินควอตซ์ เป็นวัสดุปูพื้นที่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง แร่ควอตซ์ธรรมชาติคุณภาพสูงกับเรซิน ผ่านกระบวนการผลิตที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้ได้แผ่นหินที่มีความแข็งแรงสูง ทนรอยขีดข่วน และไม่ดูดซึมน้ำ จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการปูพื้นห้องน้ำ 

มีจุดเด่นความสวยงามที่ใกล้เคียงหินธรรมชาติ ดูแลรักษาง่ายกว่า ไม่ต้องขัดเงาบ่อย และไม่เกิดคราบน้ำหรือเชื้อรา จึงเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของดีไซน์และการใช้งานจริง 

ด้วยความทนทาน แข็งแรง และผิวสัมผัสที่ปลอดภัยต่อการใช้งานในพื้นที่เปียก หินควอตซ์เทียมจึงกลายเป็นหนึ่งในวัสดุปูพื้นห้องน้ำยอดนิยม สำหรับบ้านและอาคารยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความสวยงามและความคงทนในระยะยาว

แนะนำแบรนด์หินควอตซ์ จาก Stone Surfaces Thailand: CAMBRIA, TechniStone

4. Engineered Marble

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราเหนือกาลเวลาของหินอ่อนธรรมชาติ แต่ต้องการวัสดุที่ทนทานกว่า และดูแลง่ายกว่า Engineered Marble หรือ หินอ่อนอัด คือคำตอบที่ลงตัวที่สุด โดยนำผงหินอ่อนธรรมชาติผสมกับเรซินและสารยึดเกาะคุณภาพสูง เพื่อสร้างแผ่นหินที่มีลวดลายสวยงามใกล้เคียงของจริง แต่แต่มีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า

เมื่อใช้หินอ่อนอัดปูพื้นห้องน้ำจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เรียบหรู ให้ความรู้สึกสะอาดและสบายตา เหมาะกับทั้งห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น มินิมอล หรือคลาสสิก นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเฉดสีและลวดลายได้หลากหลาย ตั้งแต่โทนขาวเทาแบบ Carrara ไปจนถึงโทนทองหรือครีมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น

แนะนำแบรนด์หินอ่อนอัด จาก Stone Surfaces Thailand: QUARELLA, Santamargherita

วิธีเลือกหินให้เหมาะกับการปูพื้นห้องน้ำ

การเลือกหินปูพื้นห้องน้ำเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นได้ง่าย การเลือกหินที่เหมาะสมจะช่วยให้ห้องน้ำทั้งสวยงาม ทนทาน และปลอดภัย ต่อการใช้งานในระยะยาว โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญดังนี้

1. เลือกหินที่มีค่ากันลื่นตามเกณฑ์มาตรฐาน

R หรือ Slip Resistance Rating เป็นค่ามาตรฐานสากลที่ใช้วัดระดับการกันลื่นของวัสดุปูพื้น โดยจะมีค่าตั้งแต่ R9-R13

• R9: เหมาะกับพื้นที่แห้ง 
• R10: เหมาะกับพื้นที่แห้งหรือเปียกชั่วคราว เช่น พื้นทางเดินนอกห้องน้ำ ห้องน้ำโซนแห้ง อ่างล้างหน้า
• R11-R13: เหมาะกับพื้นที่เปียกตลอดเวลา เช่น พื้นห้องอาบน้ำ พื้นรอบสระว่ายน้ำ หรือสปา

คำแนะนำ: สำหรับการปูพื้นห้องน้ำภายในบ้าน ควรเลือกหินที่มีค่า R11 ขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยแม้เวลาพื้นเปียก โดยเฉพาะในบริเวณโซนเปียก (Wet Area)

2. เลือกผิวสัมผัสของหินให้เหมาะกับฟังก์ชัน

ผิวสัมผัสของหินเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อแรงเสียดทานและความปลอดภัย จึงควรพิจารณา

คำแนะนำ: หากต้องการความสมดุลระหว่างความสวยและความปลอดภัย ผิวแบบ Honed, Brushed และ Bush Hammered คือทางเลือกที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับการปูพื้นห้องน้ำ

3. เลือกขนาดของแผ่นหิน

การเลือกขนาดของแผ่นหิน มีผลอย่างมากต่อมิติและบรรยากาศของห้องน้ำ หากใช้แผ่นหินขนาดใหญ่ปูพื้นห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัดจะทำให้ห้องดูแน่นและอึดอัดยิ่งขึ้น เพราะเส้นสายของลวดลายจะขาดช่วงและสะท้อนขนาดจริงของพื้นที่ ในทางกลับกัน การเลือกใช้แผ่นหินขนาดเล็กจะช่วยสร้างจังหวะสายตา (visual rhythm) ผ่านร่องยาแนว ทำให้ห้องน้ำที่แคบดูโปร่งและกว้างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงถึงเรื่องการดูแลรักษาด้วย เพราะร่องยาแนวของแผ่นหินขนาดเล็กมีจำนวนมาก จึงเกิดคราบฝังลึกและเชื้อราได้ง่าย หากต้องการลดปัญหานี้สามารถเลือกใช้แผ่นหินขนาดใหญ่ปูพื้นห้องน้ำ แต่ให้เลือกแบบที่มีลวดลายต่อเนื่องหรือโทนสีอ่อน เพื่อช่วยพรางสายตาให้ห้องดูกว้างขึ้นแทน

อ่านเพิ่มเติม: ตกแต่งให้แตกต่าง แผ่นหินของ Stone Surfaces Thailand มีขนาด ควรเลือกแบบไหนดี

4. เลือกโทนสีของหิน

การเลือกโทนสีของหิน สำหรับปูพื้นห้องน้ำมีผลอย่างมากต่อบรรยากาศและความรู้สึกของพื้นที่ เพราะสีสามารถเปลี่ยนให้ห้องน้ำดูกว้าง สว่าง หรืออบอุ่นขึ้นได้ทันที

• หินโทนสีอ่อน เช่น สีขาว ครีม หรือเบจ เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการปูพื้นห้องน้ำขนาดเล็ก เพราะช่วย สะท้อนแสงให้ห้องดูกว้างและสบายตา อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสะอาดและเรียบหรูในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากใช้โทนสีอ่อนมากเกินไป ห้องน้ำอาจดูเรียบแบนหรือขาดมิติ ควรเพิ่มความน่าสนใจด้วย ลวดลายหินธรรมชาติหรือแผ่นหินลายจุดละเอียด (Fine Grain) เพื่อสร้างเท็กซ์เจอร์ให้พื้นดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
• หินโทนสีเข้ม เช่น สีเทาเข้ม น้ำตาล หรือดำ จะช่วย เพิ่มความลึกและมิติให้ห้องน้ำ เหมาะกับสไตล์โมเดิร์นและลักชัวรี แต่ควรระวังเรื่องคราบสบู่หรือคราบน้ำขาวที่เห็นชัดบนพื้นผิวเข้ม ซึ่งอาจต้องดูแลทำความสะอาดบ่อยกว่าสีอ่อน

นอกจากการเบือกโทนสีของหินปูพื้นห้องน้ำแล้ว การเลือกสีของผนังหินเทียมภายในห้องน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกผนังที่

เคล็ดลับลดความลื่น เพิ่มความมั่นใจในการใช้หินปูพื้นห้องน้ำ

แม้จะเลือกหินปูพื้นห้องน้ำที่มีคุณสมบัติกันลื่นดีแค่ไหน แต่การดูแลและออกแบบพื้นที่อย่างเหมาะสมก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ห้องน้ำของคุณทั้งสวย ปลอดภัย และใช้งานได้จริงในทุกวัน ต่อไปนี้คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการลื่นได้จริง

• ใช้น้ำยากันลื่นหรือเคลือบผิวพิเศษ: เลือกใช้น้ำยาหรือสารเคลือบ Anti-slip coating ที่ออกแบบมาสำหรับพื้นหินโดยเฉพาะ จะช่วยเพิ่มแรงเสียดทานให้พื้นโดยไม่ทำลายลวดลายหรือความเงางามของหิน เหมาะสำหรับหินผิวมันหรือบริเวณที่มีโอกาสเปียกบ่อย เช่น โซนฝักบัว
• วางพรมกันลื่นในจุดเสี่ยง: ใช้พรมยางกันลื่นหรือแผ่นกันลื่นซิลิโคน ในบริเวณที่มีโอกาสลื่น เช่น หน้าอ่างล้างหน้า หรือหน้าห้องอาบน้ำ เลือกแบบที่มีรูระบายน้ำและด้านล่างยึดพื้นได้ดี เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวขณะใช้งาน
• ออกแบบระบบระบายน้ำที่ดี: พื้นห้องน้ำควรมี ความลาดเอียงเล็กน้อย (ประมาณ 1-2%) เพื่อให้น้ำไหลเข้าสู่ท่อระบายน้ำได้รวดเร็ว ไม่เกิดน้ำขัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของพื้นลื่นและการเกิดตะไคร่
• ทำความสะอาดเป็นประจำ: คราบสบู่ คราบน้ำ หรือสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนพื้นหินสามารถทำให้เกิดความลื่นได้ง่าย ควรทำความสะอาดพื้นห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอ ด้วยน้ำยาที่เหมาะกับหินแต่ละประเภท และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแรงซึ่งอาจกัดผิวหินให้เสื่อมสภาพลงได้

เมื่อดูแลครบทุกขั้นตอนนี้ หินปูพื้นห้องน้ำของคุณจะไม่เพียงแค่ดูสวยหรูและมีสไตล์ แต่ยังให้ความมั่นใจในทุกย่างก้าว ทั้งปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนาน

ตกแต่งห้องน้ำได้สวยงาม และปลอดภัย ด้วยหินเทียมคุณภาพ จาก Stone Surfaces Thailand 

การเลือกหินปูพื้นห้องน้ำที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของพื้นที่ด้วย ควรคำนึงถึง ผิวสัมผัส ค่ากันลื่น สี และขนาดของแผ่นหิน รวมถึงออกแบบระบบระบายน้ำและดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ หากเลือกวัสดุได้ถูกต้อง เช่น หินเทียมผิวด้าน หินขัด หรือหินควอตซ์ จะช่วยให้ห้องน้ำของคุณทั้ง หรูหรา ปลอดภัย และใช้งานได้อย่างมั่นใจในระยะยาว

Stone Surfaces Thailand นำเข้าและจัดจำหน่ายหินเทียมและหินสังเคราะห์คุณภาพสูงสำหรับปูพื้นห้องน้ำ ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีเพื่อให้ได้มาตรฐานและความทนทาน เรามีประสบการณ์ยาวนานในการจัดหาวัสดุหินเทียมที่เหมาะสมกับการใช้งานในห้องน้ำ พร้อมทั้งบริการที่ช่วยให้คุณเลือกหินที่ตรงกับความต้องการได้อย่างลงตัว และมีคุณภาพสูงสุดตามมาตรฐานที่คุณต้องการ

ติดต่อเราได้ที่

Line: https://page.line.me/vpg5096o 

Facebook: Stonesurfaces Thailand

E-mail: sale@stonesurfaces.co.th 

Website: https://stonesurfaces.co.th/ 

Tel: 02 102 2020, 061 265 4488